12 ความเชื่อผิด เกี่ยวกับ โรคพิษสุนัขบ้า
1. คิดว่า..ลูกสุนัขและแมว ไม่มีเชื่อพิษสุนัขบ้า
ความจริง: สุนัขและแมว อายุเท่าใดก็สามารถแพร่โรคพิษสุนัขบ้าได้
2. คิดว่า..สุนัขและแมวเป็นโรคพิษสุนัข บ้าเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น
ความจริง: สุนัขและแมว เป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ทุกฤดูกาล
3. คิดว่า..การฉีดวัคซีนในสุนัขและแมวจะ ป้องกันการเกิดโรคพิษาสุนัขบ้าได้ 100%
ความจริง: หากสัตว์ติดเชื้อ พิษสุนัขบ้าอยู่แล้วและอยู่ในระยะฟักตัว การฉีดวัคซีนจะไม่ได้ผล
4. คิดว่า..หากถูกสุนัขหรือแมวที่มีอาการปกติกัด ก็ไม่น่าจะเป็นบ้า
ความจริง: สุนัข และแมวสามารถแพร่เชื้อโรคได้ถึง 10 วัน ก่อนจะแสดงอาการ ดังนั้นหากถูกสุนัขหรือแมวกัด แม้สัตว์จะดูปกติดก็อย่านิ่งนอนใจ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน
5. คิดว่า..การฉีดวัคซีนให้สุนัขหรือแมว 1 ครั้ง จะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต
ความจริง: การ ฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียว ยังมีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ สุนัขและแมวต้องได้รับวัคซีน 2 ครั้งในปีแรก และ 1 เข็มต่อปี
6. คิดว่า..สุนัขและแมวที่เราเลี้ยงและ เคยได้รับวัคซีนมาก่อนถูกสุนัขบ้ากัด ไม่เสี่ยงต่อการติดโรค
ความจริง: ถ้าจะให้มั่นใจเต็มที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนซ้ำ และกักขังดูอาการอย่างน้อย 45 วัน แต่ถ้าสุนัขหรือแมวตัวนั้น ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เมื่อถูกสุนัขบ้ากัด องค์การอนามัยโลกแนะนำให้ทำลาย เพราะมีโอกาสติดเชื้อสูง แต่ถ้าไม่สามารถปฏิบัติตามได้ ให้ฉีดวัคซีนทันทีและกักขังดูอาการ 6 เดือน และฉีดวัคซีนซ้ำ 1 เดือนก่อนปล่อย
7. คิดว่า..การถูกกัดเท่านั้นที่สามารถทำให้ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้
ความจริง: การถูกเลียที่แผล หรือข่วนด้วยเล็บก็ทำให้ติดโรคและตายได้ เนื่องจากสุนัขและแมวเลียอุ้งเท้าและเล็บ อาจมีไวรัสจากน้ำลายติดค้างอยู่ที่เล็บ และแพร่เชื้อได้หากแผลมีเลือดออกแม้เพียงซิบ ๆ
8. คิดว่า..ถ้าถูกสุนัขกัด ให้รีบเอารองเท้าตบ ๆ หรือราดด้วยน้ำปลาจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้
ความจริง: เมื่อถูกกัดต้องล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่เป็นเวลา 10 นาที จากนั้นพบแพทย์ทันที เพื่อล้างแผลอีกครั้ง และฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำยาไอโอดีน
9. คิดว่า..มีเฉพาะสุนัขและแมวเท่านั้นที่สามารถแพร่เชื้อพิษสุนัขบ้าสู่มนุษย์ ได้
ความจริง: สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดก็เป็นโรคและแพร่โรคได้ เช่นกัน
10. คิดว่า..เมื่อถูกสุนัขหรือแมวที่มีเชื้อกัดจะมีโอกาสรอด แม้ไม่ได้รับการรักษา
ความจริง: ถ้าคนถูกกัดแล้วมีอาการจะเสียชีวิตทุกราย ภายใน 5-11 วัน แต่คนที่รอด ไม่ได้หมายความว่า คาถาดี ทั้งนี้เพราะในน้ำลายไม่ได้มีไวรัสตลอดเวลา ซึ่งพบได้ 30-80 เปอร์เซ็น หรือเฉลี่ยครึ่งต่อครึ่ง
11. คิดว่า..รอให้สุนัข แมว ที่กัดแสดงอาการ หรือตายก่อน จึงค่อยพาคนที่ถูกกัดไปพบแพทย์
ความจริง: การฉีดยาป้องกันที่ได้ผลสูงสุด อยู่ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังถูกัด และถ้าแผลมีเลือดออก ไม่ว่าตำแหน่งใดของร่างกายต้องได้เซรุ่ม (อิมมูโน โกลบูลิน) ชนิดสกัดบริสุทธิ์ ฉีดที่แผล
12. คิดว่า..การกัดคน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ถูกแหย่เป็นเครื่องแสดงว่า สุนัขหรือแมวตัวนั้น ๆ เป็นบ้า
ความจริง: สุนัข หรือแมวที่เป็นบ้า กัดคนโดยที่แหย่หรือไม่ได้ก็ได้ เมื่อถูกกัด ต้องไปรับการรักษาเช่นกัน
ขอบคุณที่มาจาก
Dogazine